นโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล

นโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล

บริษัท ไทยฮีโน่ อยุธยา จำกัด ซึ่งต่อไปนี้จะเรียกว่า “บริษัท” ตระหนักถึงความสำคัญในการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่ท่านได้มอบ หรือ จะได้มอบไว้ให้แก่บริษัท ดังนั้น บริษัทจึงได้จัดทำนโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลนี้ เพื่อแจ้งให้ท่านได้ทราบและเข้าใจถึงวิธีการปฏิบัติของบริษัทเกี่ยวกับการเก็บ รวบรวม ใช้ เปิดเผย ข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ตามพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562

1. ขอบเขตของนโยบายฉบับนี้

นโยบายฉบับนี้ ครอบคลุมข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทได้รับ หรือเก็บรวบรวมจากการที่ท่านเข้าเยี่ยมชม ซื้อสินค้าและบริการ สมัครสมาชิก ให้คำแนะนำ ติชม ร้องเรียน การทำแบบสำรวจ แบบสอบถาม หรือทำกิจกรรมอื่นใดเท่าที่จำเป็นผ่านทางเว็บไซต์ของบริษัท แอพพลิเคชั่นบนโทรศัพท์มือถือ ช่องทางสื่อสังคมออนไลน์ และตัวแทนจำหน่ายของบริษัท ทั้งนี้ จะไม่ครอบคลุมถึงการใช้งานของท่านบนเว็ปไซต์ แอพพลิเคชั่นบนโทรศัพท์มือถือ ช่องทางสื่อสังคมออนไลน์ ของบุคคลที่สามที่สามารถเชื่อมโยงมายังเว็ปไซต์ แอพพลิเคชั่นบนโทรศัพท์มือถือ ช่องทางสื่อสังคมออนไลน์ของบริษัท และไม่ครอบคลุมถึงร้านค้าที่ไม่ได้อยู่ภายใต้การดูแลของบริษัท ดังนั้น บริษัทจึงขอแนะนำให้ท่านได้โปรดอ่านนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลนี้ เพื่อรับทราบและทำความเข้าใจวิธีการ แนวทาง และวัตถุประสงค์ที่บริษัทได้เก็บรวบรวม ใช้และเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน

2. คำนิยาม

  • (1) “บริษัท” หมายถึง บริษัท ไทยฮีโน่ อยุธยา จำกัด
  • (2) “ข้อมูลส่วนบุคคล” หมายถึง ข้อมูลเกี่ยวกับบุคคล ซึ่งทำให้สามารถระบุตัวตนของท่าน หรืออาจจะระบุตัวตนของท่านได้ ไม่ว่าทางตรงหรือทางอ้อม แต่ไม่รวมถึงข้อมูลของผู้ถึงแก่กรรม
  • (3) “เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล” หมายถึง บุคคลซึ่งเป็นเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล ในที่นี้ให้หมายถึง “ท่าน”
  • (4) “บุคคล” หมายถึง บุคคลธรรมดา ไม่รวมถึงนิติบุคคลที่จัดตั้งขึ้นตามกฎหมาย เช่น บริษัท, สมาคม, มูลนิธิ หรือองค์กรอื่นใด
  • (5) “เว็บไซต์ของบริษัท” หมายถึง เว็บไซต์ https://www.hino-thay.co.th/

3. การเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของท่านโดยบริษัท

ในขณะที่ท่านติดต่อบริษัทผ่านช่องทางการสื่อสารใดๆ ของบริษัท บริษัทอาจมีความจำเป็นต้องเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ดังต่อไปนี้

  • (1) ข้อมูลส่วนตัว ได้แก่ คำนำหน้าชื่อ, ชื่อ-นามสกุล, เพศ, วันเดือนปีเกิด, อายุ, หมายเลขบัตรประชาชน, หมายเลขหนังสือเดินทาง, เลขประจำตัวผู้เสียภาษีอากร, สัญชาติ เป็นต้น
  • (2) ข้อมูลเพื่อการติดต่อ ได้แก่ หมายเลขโทรศัพท์, ที่อยู่ทางไปรษณีย์เพื่อจัดส่งสินค้า, ที่อยู่สำหรับระบุในใบเสร็จรับเงิน, ที่อยู่ทางไปรษณีย์อิเล็กทรอนิกส์ (e-mail address), บัญชีผู้ใช้ในเว็บไซต์โซเชียล เป็นต้น
  • (3) ข้อมูลทางการเงิน ได้แก่ ช่องทางชำระเงิน ข้อมูลบัตรเดบิต/บัตรเครดิต
  • (4) ข้อมูลการทำธุรกรรมการซื้อขายสินค้าและบริการ ได้แก่ ข้อมูลเกี่ยวกับการรับชำระเงินจากท่าน/คืนเงินไป ยังท่าน, วันที่ชำระเงิน, เวลาชำระเงิน, ยอดชำระเงิน, หมายเลขการซื้อหรือคำสั่งซื้อ, วัน/เวลาในการรับหรือจัดส่งสินค้า, ข้อความตอบรับสินค้าจากท่าน, ข้อมูลการรับประกันสินค้า, คำร้องเรียนและข้อร้องเรียน และข้อมูลอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับ การซื้อสินค้าและบริการจากท่าน
  • (5) ข้อมูลการเป็นสมาชิก ได้แก่ รายละเอียดข้อมูลบัญชีสมาชิก, หมายเลขบัตรสมาชิก, คะแนนสะสม, ประเภทสมาชิก, วันที่สมัครสมาชิก, ระยะเวลาการเป็นสมาชิก และข้อมูลการเป็นสมาชิกอื่นๆ
  • (6) ข้อมูลเกี่ยวกับพฤติกรรม ได้แก่ ข้อมูลเกี่ยวกับพฤติกรรมการซื้อสินค้า และบริการของท่าน และข้อมูลการตอบรับความพึงพอใจของท่านที่มีต่อการให้บริการของบริษัท
  • (7) ข้อมูลส่วนตัวอื่นๆ ได้แก่ เชื้อชาติ, เผ่าพันธุ์, ศาสนา, ลายนิ้วมือ, ระบบจดจำใบหน้า, ข้อมูลสุขภาพหรือสภาพทางร่างกายหรือจิตใจ ข้อมูลทางพันธุกรรม ประวัติทางการแพทย์ ภาวะทุพพลภาพ และประวัติอาชญากรรม เป็นต้น

ทั้งนี้ บริษัทจะเก็บข้อมูลส่วนตัวของท่าน ตามความจำเป็นในการใช้งานตามวัตถุประสงค์ที่ระบุไว้ในนโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนตัวฉบับนี้เท่านั้น โดยในการเก็บ รวบรวม ใช้ หรือ เปิดเผย ข้อมูลของท่านแก่บุคคลภายนอก บริษัทจะขอความยินยอมเป็นลายลักษณ์อักษร หรือวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์จากท่านก่อน ซึ่งท่านมีสิทธิที่จะไม่ให้ความยินยอมในการใช้ข้อมูลส่วนตัวของท่านก็ได้ แต่อาจส่งผลให้บริษัทไม่สามารถให้บริการกับท่านสำหรับเรื่องนั้นๆ ได้

บริษัทจะเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนตัวของผู้เยาว์ บุคคลเสมือนไร้ความสามารถ หรือ บุคคลไร้ความสามารถก็ต่อเมื่อได้รับความยินยอมจากผู้ใช้อำนาจปกครอง ที่มีอำนาจกระทำการแทนบุคคลดังกล่าวเท่านั้น ซึ่งได้แก่ ผู้ใช้อำนาจปกครองที่มีอำนาจกระทำการแทนผู้เยาว์ (สำหรับผู้เยาว์) ผู้พิทักษ์(สำหรับบุคคลเสมือนไร้ความสามารถ) หรือผู้อนุบาล (สำหรับบุคคลไร้ความสามารถ) ในกรณีที่บริษัทได้ทำการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนตัวของผู้เยาว์ บุคคลเสมือนไร้ความสามารถ หรือบุคคลไร้ความสามารถ โดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้ใช้อำนาจปกครองของบุคคลดังกล่าวโดยไม่มีเจตนา บริษัทจะดำเนินการลบข้อมูลดังกล่าวทันที ทั้งนี้ หากมีข้อกำหนดของกฏหมายอื่นๆ บริษัทอาจเลือกใช้ข้อมูลส่วนตัวบางส่วนของบุคคลดังกล่าวโดยไม่ได้รับความยินยอม ตามขอบเขตความจำเป็นของกฏหมายเท่านั้น

ทั้งนี้ ข้อมูลส่วนบุคคลที่ท่านมอบให้แก่บริษัทจะต้องเป็นข้อมูลที่ถูกต้อง ครบถ้วนสมบูรณ์ เป็นความจริง และไม่ทำให้เกิดความเข้าใจผิด และท่านจะต้องแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลของท่านให้เป็นปัจจุบัน และแจ้งให้บริษัททราบเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงข้อมูลต่างๆ ผ่านช่องทางการติดต่อบริษัทที่ระบุไว้ในนโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนตัวฉบับนี้ หากท่านเลือกที่จะไม่ส่งข้อมูลส่วนบุคคลของท่านให้บริษัท หรือเลือกที่จะเพิกถอนความยินยอมในการใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน อาจส่งผลทำให้บริษัทไม่สามารถให้บริการแก่ท่านได้

4. วัตถุประสงค์ในการเก็บรวบรวม ใช้ เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล

บริษัทจะเก็บรวบรวม ใช้ และเปิดเผยข้อมูลส่วนตัวของท่านเท่าที่จำเป็น โดยได้รับความยินยอมจากท่าน หรือด้วยเหตุอันชอบด้วยกฏหมาย เพื่อวัตถุประสงค์ต่อไปนี้

  • (1) เพื่อใช้สำหรับการให้ข้อมูลเกี่ยวกับสินค้า บริการ โปรโมชั่น กิจกรรม หรือสิทธิพิเศษอื่นๆ ผ่านทาง Email, SMS, Line หรือวิธีการอื่นที่คุณได้ให้ความยินยอมไว้
  • (2) เพื่อจัดส่งเอกสาร จัดส่ง/รับคืนสินค้า หรือทำธุรกรรมทางการเงินระหว่างท่านกับบริษัท
  • (3) เพื่อนำไปใช้ในการวิเคราะห์ วิจัยตลาด เพื่อใช้ในการวางแผนการตลาด และปรับปรุงสินค้าและบริการของบริษัท ให้ตรงกับความต้องการของท่านมากขึ้น
  • (4) เพื่อวัตถุประสงค์อื่นๆ ที่จำเป็นในการดำเนินธุรกิจของบริษัท และสร้างความสัมพันธ์ระหว่างท่านกับบริษัท

5. การเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลแก่บุคคลภายนอก

บริษัทอาจทำการเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านให้แก่บุคคลภายนอกเท่าที่จำเป็น เพื่อให้เป็นไปตามวัตถุประสงค์ที่ระบุไว้ในนโยบายนี้ โดยบริษัทจะส่งข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไปยังบุคคลดังต่อไปนี้

  • (1) ตัวแทน บริษัทในเครือ หรือบริษัทที่เกี่ยวข้องที่ตั้งอยู่ภายในประเทศไทย หรือในต่างประเทศ
  • (2) ตัวแทน และผู้รับจ้าง หรือบุคคลภายนอก ที่มีส่วนในการให้บริการแก่ท่านและบริษัท เช่น ผู้ให้บริการขนส่งสินค้า, ผู้ให้บริการด้านโทรคมนาคม, ที่ปรึกษาหรือผู้เชี่ยวชาญ, ผู้ให้บริการทางการตลาด เป็นต้น ซึ่งบริษัทจะมีมาตรการการควบคุมที่เหมาะสม เพื่อให้ท่านมั่นใจได้ว่าข้อมูลส่วนบุคคลของท่านจะได้รับความปลอดภัย และได้รับการคุ้มครองตามกฏหมาย
  • (3) เจ้าหน้าที่ หรือ หน่วยงานของรัฐ เพื่อให้เป็นไปตามกฏ ระเบียบ ข้อบังคับของกฏหมายที่เกี่ยวข้อง

6. สิทธิของท่านในฐานะเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล

ตามพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 ท่านในฐานะเจ้าของข้อมูล มีสิทธิดังต่อไปนี้

  • (1) สิทธิในการได้รับแจ้งให้ทราบเกี่ยวกับข้อมูลส่วนตัวที่เก็บรวบรวม วิธีการเก็บรวบรวม วัตถุประสงค์ในการนำข้อมูลส่วนตัวไปใช้ บุคคลที่จะได้รับข้อมูล และระยะเวลาที่จัดเก็บข้อมูล
  • (2) สิทธิในการขอเข้าถึงและขอรับสำเนาข้อมูลส่วนตัวของท่าน ซึ่งอยู่ในความรับผิดชอบของบริษัท
  • (3) สิทธิในการขอให้ส่ง หรือโอนข้อมูลส่วนตัวของท่าน ไปยังผู้ควบคุมข้อมูลคนอื่นๆ ได้
  • (4) สิทธิในการคัดค้านการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนตัวของท่าน
  • (5) สิทธิในการขอให้ลบ หรือทำลาย หรือทำให้ข้อมูลส่วนตัวของท่าน เป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวบุคคลได้
  • (6) สิทธิในการขอให้ระงับการใช้ข้อมูลส่วนตัวของท่านไว้เป็นการชั่วคราว
  • (7) สิทธิในการขอให้บริษัทดำเนินการให้ข้อมูลส่วนตัวของท่านถูกต้อง สมบูรณ์ และเป็นปัจจุบัน
  • (8) สิทธิในการร้องเรียนต่อบริษัท หรือคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล หากท่านเห็นว่าสิทธิใดๆ ของท่าน ได้ถูกบริษัทละเมิด จนเป็นเหตุให้เกิดความเสียหายกับท่านในฐานะเจ้าของข้อมูล
  • (9) สิทธิในการขอให้บริษัทเปิดเผยถึงการได้มาของข้อมูลส่วนตัวของท่าน ในกรณีที่ท่านไม่ได้ให้ความยินยอมไว้

ในกรณีที่ท่านต้องการใชัสิทธิดังกล่าว ท่านจะต้องแสดงความจำนงขอใช้สิทธิเป็นลายลักษณ์อักษรและบริษัทจะใช้ความพยายามอย่างดีที่สุด ที่จะดำเนินการตามคำขอของท่าน ภายในระยะเวลาที่เหมาะสม และไม่เกินกว่าที่กฏหมายกำหนด โดยบริษัทจะปฏิบัติตามกฏหมายที่เกี่ยวข้องอย่างเคร่งครัด การใช้สิทธิขอลบ ทำลาย ทำให้ข้อมูลส่วนตัวของท่าน เป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวบุคคลได้ ขอให้ระงับการใช้ข้อมูลเป็นการชั่วคราว หรือการเพิกถอนความยินยอม อาจส่งผลให้บริษัทไม่สามารถให้บริการแก่ท่านในเรื่องที่เกี่ยวข้องได้

7. ระยะเวลาในการจัดเก็บข้อมูลส่วนบุคคล

บริษัท จะจัดเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไว้ ตามระยะเวลาเท่าที่จำเป็นสำหรับวัตถุประสงค์ ที่ได้ระบุไว้ในนโยบายนี้เท่านั้น ยกเว้น ในกรณีที่กฎหมายกำหนดให้เก็บข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวในระยะเวลานานกว่านั้น และในกรณีที่พ้นระยะเวลาการจัดเก็บ หรือข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไม่มีความจำเป็น ทางบริษัทจะทำการลบ ทำลาย หรือทำให้ข้อมูลส่วนบุคคลนั้นไม่สามารถระบุตัวบุคคลได้

8. มาตรการการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล

บริษัทจะจัดให้มีมาตรการรักษาความมั่นคงปลอดภัยที่เหมาะสม เพื่อป้องกันการสูญหาย เข้าถึง ใช้ เปลี่ยนแปลง แก้ไข หรือ เปิดเผย ข้อมูลส่วนบุคคลโดยปราศจากอำนาจหรือโดยมิชอบ และบริษัทจะทบทวนมาตรการดังกล่าว เมื่อมีความจำเป็นหรือเมื่อเทคโนโลยีเปลี่ยนแปลงไป เพื่อให้มีประสิทธิภาพในการรักษาความมั่นคงปลอดภัยที่เหมาะสม

9. การเปลี่ยนแปลงนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล

บริษัทขอสงวนสิทธิ์ในการแก้ไขเปลี่ยนแปลงนโยบาย คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลนี้ ตามความจำเป็นและเหมาะสม โดยการแก้ไขเปลี่ยนแปลงใดๆ ทางบริษัทจะได้ประกาศและแสดงลงบนเว็ปไซต์ของบริษัท หรือด้วยวิธีการอื่นที่เหมาะสม

10. ข้อมูลเกี่ยวกับคุกกี้

บริษัทใช้คุกกี้ในเว็บไซต์นี้ เพื่อเป็นเครื่องมือช่วยแยกแยะรูปแบบการใช้งานเว็บไซต์ของท่านจากผู้ใช้งานอื่นๆ ซึ่งจะช่วยให้ท่านได้รับประสบการณ์ที่ดีจากการใช้งานเว็บไซต์ และช่วยให้เราสามารถพัฒนาคุณภาพของเว็บไซต์ให้ดียิ่งขึ้น กรณีที่ท่านใช้งานเว็บไซต์นี้ต่อไป ถือว่าท่านได้ยินยอมให้เราติดตั้งคุกกี้ไว้ในเครื่องคอมพิวเตอร์ของท่าน

11. การติดต่อบริษัท

หากท่านมีข้อสงสัยที่เกี่ยวข้องกับนโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลนี้ หรือ ท่านประสงค์จะใช้สิทธิตามที่ระบุไว้ในข้อ 6. หรือประสงค์เพิกถอนความยินยอมให้เก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ท่านสามารถติดต่อได้ที่ บริษัท ไทยฮีโน่ อยุธยา จำกัด

ผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล (Data Controller) ที่ e-mail: [email protected]

หมายเลขโทรศัพท์: 0-3525-7004

ที่อยู่ 61 หมู่ที่ 3 ตำบลลำไทร อำเภอวังน้อย จังหวัดพระนครศรีอยุธยา 13170

นโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลฉบับนี้ ถูกจัดทำขึ้นเพื่อให้สอดคล้องกับพระราชบัญญัติ คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 และถูกเผยแพร่ในรูปแบบของ ภาษาไทยและภาษาอังกฤษ หากมีความไม่สอดคล้องในความหมายหรือการตีความระหว่างภาษาไทยและภาษาอังกฤษให้ยึดถือตามภาษาไทยเป็นหลัก

ประกาศ ณ วันที่ 9 กันยายน 2565

Top